พลาสติกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)

คือพลาสติกที่อ่อนตัว หรือหลอมละลายได้เมื่อได้รับความร้อน และจะแข็งตัวเมื่อเย็นลง เป็นพลาสติกที่สามารถนำกลับมาหลอมใช้ใหม่ได้หลายครั้ง ตัวอย่างพลาสติกประเภทนี้ ได้แก่พลาสติกในกลุ่ม:

โพลิโอเลฟินส์ (Polyolefins) - LDPE, HDPE, PP
  • - โพลิเอทิลีน (Polyethylene: PE)เป็นพลาสติกที่ไอน้ำซึมผ่านได้เล็กน้อย แต่อากาศผ่านเข้าออกได้ มีลักษณะขุ่นและทนความร้อนได้พอควร เป็นพลาสติกที่นำมาใช้มากที่สุดในอุตสาหกรรม เช่น ท่อน้ำ ถัง ถุง ขวด แท่นรองรับสินค้า
  • - โพลิโพรพิลีน (Polypropylene: PP) เป็นพลาสติกที่ไอน้ำซึมผ่านได้เล็กน้อย แข็งกว่าโพลิเอทิลีนทนต่อสารไขมันและความร้อนใช้ทำแผ่นพลาสติกถุงพลาสติกบรรจุอาหารที่ทนร้อน หลอดดูดพลาสติก เป็นต้น
  • โพลิสไตรีน (Polystyrene) - PS, HIPS
  • - PS มีลักษณะโปร่งใส เปราะ ทนต่อกรดและด่าง ไอน้ำและอากาศซึมผ่านได้พอควร ใช้ทำชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น
  • อะคริโลไนไตรส์ - สไตรีน (Acylonitrile-Styrene) - AS, SAN
  • - SAN เป็นพลาสติกโปร่งใส ใช้ผลิตชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น
  • อะคริโลไนไตรส์-บิวตะไดอีน-สไตรีน (Acrylonitrile-Butadiene-Styrene) - ABS
  • - ABS สมบัติคล้ายโพลิสไตรีน แต่ทนสารเคมีดีกว่า เหนียวกว่า โปร่งแสง ใช้ผลิตถ้วย ถาด เป็นต้น
  • โพลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl Chloride)-PVC
  • - PVC ไอน้ำและอากาศซึมผ่านได้พอควร แต่ป้องกันไขมันได้ดีมีลักษณะใส ใช้ทำขวดบรรจุน้ำมันและไขมันปรุงอาหาร ขวดบรรจุเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์ เบียร์ ใช้ทำแผ่นพลาสติก ห่อเนยแข็ง ทำแผ่นแลมิเนตชั้นในของถุงพลาสติก
  • ไนลอน(Nylon) เป็นพลาสติกที่มีความเหนียวมาก คงทนต่อการเพิ่มอุณหภูมิ ทำแผ่นแลมิเนตสำหรับทำถุงพลาสติกบรรจุอาหารแบบสุญญากาศ
    โพลิเอทิลีน เทอร์ฟะธาเลต (Polyethylene terephthalate) เหนียวมากโปร่งใส ราคาแพง ใช้ทำแผ่นฟิล์มบาง ๆ บรรจุอาหาร
    โพลิคาร์บอเนต (Polycarbonate: PC) มีลักษณะโปร่งใส แข็ง ทนแรงยึดและแรงกระแทกได้ดี ทนความร้อนสูง ทนกรด แต่ไม่ทนด่าง เป็นรอยหรือคราบอาหาร จับยาก ใช้ทำถ้วย จาน ชาม ขวดนมเด็ก และขวดบรรจุอาหารเด็ก

2. เทอร์โมเซทติ้งลาสติก (Thermosetting Plastic)

เป็นพลาสติกที่จะมีรูปทรงถาวร เมื่อผ่านกรรมวิธีการผลิตโดยใช้ความร้อน หรือความดัน ผลิตภัณฑ์ที่ได้ไม่สามารถนำกลับมาหลอมและขึ้นรูปใช้ใหม่ได้ เนื่องจากก่อนผ่านกระบวนการเตรียมการผลิต โครงสร้างของโพลิเมอร์ยังไม่เป็น network แต่เมื่อผ่านกระบวนการให้ความร้อนหรือความดันเข้าไปจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมี โดยในโครงสร้างเกิดการเชื่อมโยงระหว่างสายโซ่โมเลกุล โดยมีการสร้างพันธะระหว่างโซ่โมเลกุล ตัวอย่างพลาสติกชนิดนี้ ได้แก่ เมลามีน (Melamine), โพลียูรีเทน (Polyurethane), ฟีนอล-ฟอร์มอลดีไฮด์ (Phenol-Formaldehyde), ยูริคฟอร์มอลดีไฮด์ (Uric Formaldehyde) เป็นต้น